ในยุคสมัยที่องค์กรต้องเผชิญกับ Digital Disruption กลยุทธ์ที่สำคัญในการทำการตลาดในยุคดิจิทัล ขาดไม่ได้คือ การทำเนื้อหา หรือที่เรียกว่า Content Marketing ซึ่งฟังดูเหมือนเป็นคำศัพท์ใหม่ แต่แท้ที่จริง เรื่องนี้มีมานานกว่า 100 ปีแล้ว
ในช่วงปีที่แล้ว ได้มีโอกาสเข้ารับการอบรมหลักสูตรผู้บริหารระดับสูงของมหาวิทยาลัยมหิดล ที่มีชื่อว่า MU-AMP รุ่นที่ 4 และเมื่อวันที่ 25 เมษายน 2562 ได้มีโอกาสฟังบรรยายเรื่อง Content Marketing โดยวิทยากรที่เชี่ยวชาญ คือ คุณปฐมภพ สุวรรณศิริ Chief Commerical Officer (CCO) หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านการค้า บริษัท ไทยคม จำกัด (มหาชน) ทำให้มีความรู้ความเข้าใจในเรื่องนี้มากขึ้น จึงขอนำเกร็ดความรู้มาถ่ายทอดแบ่งปันสำหรับผู้สนใจค่ะ
การตลาดสมัยก่อน ใช้วิธี Outbound Marketing คือการทำโฆษณาสินค้า โดย “PUSH” ข้อมูลเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ ตรงไปยังลูกค้าโดยผ่านสื่อสาธารณะต่าง ๆ คล้าย ๆ กับเป็นการกระจายเสียง แต่สมัยนี้ เราใช้วิธี Inbound Marketing เป็นการ “PULL” ให้ลูกค้าสนใจและเข้ามาใกล้ชิด สร้างแบรนด์ (Brand) ให้กับสินค้าหรือผลิตภัณฑ์ และเผยแพร่เนื้อหา (Content) ที่มีคุณค่าไปยังลูกค้า วิธีนี้ก็คือการใช้การตลาดแบบ Indirect Marketing หรือ Content Marketing นั่นเอง
ประวัติความเป็นมาของ Content Marketing เกิดมานานกว่า 120 ปีแล้ว อ่านได้จากบทความเรื่อง Content marketing – the fundamental tool of digital marketing เขียนโดย Loredana PATRUTIU BALTES ตีพิมพ์ในวารสาร Bulletin of the Transilvania University of Braşov Series V: Economic Sciences. (2015), Vol. 8 (57) No. 2 pp. 111-118.
ในบทความนี้ ได้ยกตัวอย่างบริษัทที่ใช้เทคนิคของ Content Markering มาก่อนที่จะมีคำศัพท์นี้เกิดขึ้นด้วยซ้ำไป เช่น ในปี ค.ศ. 1891 ดร.ออกัส เอิร์ทก้าร์ Dr. August Oetker ผู้ก่อตั้งบริษัทจำหน่ายผงฟู (Baking Powder) ยี่ห้อ Backin ได้พิมพ์ตำราทำขนมต่าง ๆ ติดไว้ที่ด้านหลังกล่องผงฟู เวลาผ่านไป 20 ปี สามารถนำมารวมเล่มเป็นตำราอาหาร (Cookbook) พิมพ์จำหน่ายไปทั่วโลกกว่า 19 ล้านชุด และมีการปรับปรุงเนื้อหาต่อเนื่องเป็นเวลานานนับ 100 ปี
ตัวอย่างที่ 2 เป็นเรื่องของบริษัทจำหน่ายคันไถ รถแทรกเตอร์ เครื่องตัดหญ้า เครื่องจักรและอุปกรณ์ทำเกษตรกรรม อายุกว่า 175 ปี ที่มีชื่อว่า จอห์น เดียร์ (John Deere) เมื่อปี ค.ศ. 1895 John Deere ได้จัดทำนิตยสารชื่อ The Furrow Magazine “A Journal for the American Farmer” แจกจ่ายให้ความรู้แก่ลูกค้าอย่างต่อเนื่องเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน นับว่าเป็นการทำ Content Marketing รุ่นบุกเบิกของโลกเลยทีเดียว
ตัวอย่างที่ 3 เป็นเรื่องของบริษัทยางรถยนต์ Michelin ของฝรั่งเศส ในปี ค.ศ. 1900 สองพี่น้องตระกูลมิชลิน (Michelin) อังเดร (André) และ เอดเวิร์ด (Édouard) ได้พิมพ์หนังสือคู่มือท่องเที่ยว มิชลิน ไกด์ (Michelin Guide) แจกจ่ายฟรีแก่ลูกค้า เพื่อเป็นข้อมูลเกี่ยวกับการซ่อมปะยางรถยนต์ด้วยตนเอง ปั๊มน้ำมัน โรงแรม แผนที่เดินทาง และภัตตาคารตามเส้นทางการเดินทางในประเทศต่าง ๆ และปัจจุบันเข้าใจว่า ไม่น่ามีใคร ที่ไม่เคยได้ยินเรื่องราวของการจัดอันดับร้านอาหารด้วย Michelin Star ระดับ 1 ดาว 2 ดาว และ 3 ดาว
ตัวอย่างที่ 4 เป็นเรื่องของบริษัทอเมริกัน ผลิตเจลลี่กึ่งสำเร็จรูปสำหรับทำขนมและอาหาร ทำจากเจลาติน (Gelatin) ที่เก่าแก่ที่สุดในโลก มีชื่อว่า Jell-O ตอนแรกเกือบเจ๊งแล้ว เพราะไม่มีใครซื้อ แต่พอเมื่อปี 1904 ได้ทำการตลาดโดยผลิตตำราอาหาร Jell-O Recipe Book มีทั้งเนื้อหาและภาพวาดประกอบที่สวยงามและดึงดูดสายตา ให้เซลล์แมนเดินเคาะประตูตามบ้าน แจกฟรีให้แก่ลูกค้า จนกระทั่งขายดิบขายดีในที่สุด นี่ก็เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างของการตลาดแบบ Content Marketing ในยุคบุกเบิก ที่ใช้การเล่าเรื่องราวของแบรนด์ (Brand Stories) ในการทำ Indirect Marketing ใช้วิธีสร้างสิ่งดึงดูดใจทางอารมณ์ (Emotional Appeal) แทนการจงใจขายสินค้าโดยตรง
ตัวอย่างที่ 5 เป็นเรื่องของฮาสโบร (Hasbro) และมาร์เวล (Marvel) ที่ใช้ G.I. Joe ตุ๊กตาของเด็กเล่น รูปทหารอเมริกัน สี่เหล่าทัพ (ทหารบก ทหารเรือ ทหารอากาศ และนาวิกโยธิน) ยี่ห้อ Hasbro มาทำสื่อการตลาดหลายรูปแบบ ทั้งเป็นหนังสือการ์ตูน G.I. Joe (A Real American Hero) ตีพิมพ์โดย Marvel Comics และกลายมาเป็นรายการโทรทัศน์ และภาพยนตร์ที่โด่งดังในเวลาต่อมา
คำศัพท์ คำว่า “Content Marketing” ใช้ครั้งแรกเมื่อประมาณต้นปี 1996 โดย John F. Oppedahl ในการประชุมโต๊ะกลมของสมาคม American Society for Newspaper Editors และนิยมใช้มาจนถึงปัจจุบัน โดยเฉพาะในยุคของ Digital Markerting ที่จะต้องพัฒนาเนื้อหา (Content) ในการทำการตลาด สร้างการรับรู้ ความมั่นใจ และความศรัทธาในแบรนด์ และเผยแพร่ออกไปในช่องทางที่สะดวกรวดเร็วกว่าในอดีต และสามารถติดตามวัดผลด้วย Impact Metrics ต่าง ๆ ได้ง่าย นั่นคือ สื่อสังคมออนไลน์ (Social Networks)
ขอจบบทความนี้ ด้วยโฆษณาที่สร้างอารมณ์ความรู้สึก “Taste the Feeling” ของบริษัทเครื่องดื่ม โคคา-โคล่า บริษัทที่มีอายุเก่าแก่นานกว่า 100 ปี และยังคงสามารถเติบโตขึ้นไปได้เรื่อยๆ ด้วยการใช้เทคนิคการตลาดที่มีชื่อว่า Content Marketing นั่นเอง